ลักษณะธุรกิจ
ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจค้าปลีก ด้วยความมุ่งมั่นในการจำหน่ายสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง ควบคู่ไปกับการทำสิ่งที่ดีเพื่อลูกค้า เพื่อนพนักงาน และชุมชน ปัจจุบัน โลตัส ให้บริการลูกค้ากว่า 10.8 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ผ่านทั้งช่องทาง omni-channel ทั้งในกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของลูกค้า ส่งมอบความสะดวกสบาย และประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะใช้บริการที่ไหน เมื่อไหร่
ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย อยู่ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ ยึดมั่นในปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืนของเครือฯ ที่มุ่งสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคม และเครือฯ ประกอบกับหลักการบริหารจัดการคุณภาพโดยรวม ภายใต้แนวทาง ซีพีสู่ความเป็นเลิศ (C.P. Excellence) เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน บนหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส การตรวจสอบได้และความรับผิดชอบ สอดคล้องกับกฎระเบียบ ข้อบังคับ มาตรฐานของประเทศ
ลูกค้า
โลตัส มุ่งมั่นให้ลูกค้าของเรา “รู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส” ผ่านการมอบสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึงได้ให้แก่ลูกค้า เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และมาจากแหล่งที่ยั่งยืน ในราคาเอื้อมถึง นอกจากนั้น เรายังมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการที่ยอดเยี่ยมและไร้รอยต่อ ไม่ว่าลูกค้าจะใช้บริการของเราในช่องทางใดก็ตาม
บัตรสมาชิกโลตัส เพิ่มความคุ้มค่าสำหรับทุกการช้อปปิ้ง ผ่านส่วนลดและสิทธิประโยชน์ที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าแต่ละคนโดย เฉพาะ จากการเก็บข้อมูลการใช้บัตรและประมวลผลด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้เราสามารถส่งมอบสิทธิประโยชน์ที่เฉพาะตัวให้กับสมาชิกกว่า 15 ล้านคน
โลตัส ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการ เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สะดวกสบายให้แก่ลูกค้า อาทิ โมบายแอพพลิเคชั่น ที่มอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พร้อมคูปองส่วนลด นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำฉลากคิวอาร์โค้ดบนอาหารสด เพื่อให้ข้อมูลด้านแหล่งที่มาของอาหารและคุณค่าทางโภชนาการ เราสื่อสารกับลูกค้าบนโลกดิจิทัล ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook ที่มีแฟนเพจมากกว่า 4.5 ล้านคน เป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจค้าปลีก แอพพลิเคชั่นไลน์ ที่มีแฟนมากกว่า 33 ล้านคน ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกเช่นกัน
โลตัส ยังเน้นการสนับสนุนให้ลูกค้าของเรามีสุขภาพที่ดี โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพให้กับลูกค้า เช่น การลดหวาน มัน เค็ม ในผลิตภัณฑ์อาหารแบรนด์โลตัส รวมทั้งการจำหน่ายผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ตามวิสัยทัศน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ “เราเป็นองค์กรที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างอาหารคน อาหารสมอง โอกาสในการเข้าถึงคุณค่า เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ทีดีสำหรับทุกคน”
นอกจากนั้น เรายังให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อนำไปปรับปรุงและแก้ไขเพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจจากสินค้าและบริการของเรามากยิ่งขึ้น เช่น มีนโยบายการรับคืนสินค้า เป็นต้น รวมถึงมีนโยบายและกลไกการรับเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับสินค้าและบริการ โดยมีกระบวนการดูแลลูกค้าอย่างเป็นขั้นตอน และกำหนดกรอบระยะเวลาในการตอบรับข้อร้องเรียน ภายใน 48 ชั่วโมง โดยลูกค้าสามารถติดต่อผ่านทาง Customer Service Call Center เบอร์โทร. 1712 หรือผ่านช่องทาง ออนไลน์ต่าง ๆ ของโลตัส
เพื่อนพนักงาน
ตลอดระยะเวลาที่เราอยู่คู่กับสังคมและเศรษฐกิจไทย โลตัส สร้างงานและอาชีพให้กับกลุ่มคนที่หลากหลาย ผ่านการจ้างงานพนักงานประจำ และพนักงานชั่วคราวกว่า 50,000 คน ในการปฏิบัติงานในทุกหน่วยงานของธุรกิจ โดย โลตัส มุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในองค์กร โดยส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ สร้างประสบการณ์ และยกระดับทักษะของเพื่อนพนักงาน เพื่อให้สามารถเติบโตไปพร้อม ๆ กับองค์กรและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศ
เราให้ความสำคัญกับความหลากหลายและการอยู่ร่วมกัน (Diversity & Inclusion) เรามีโปรแกรมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนพนักงานเพื่อนำความคิดเห็นมาปรับปรุงองค์กรของเราให้เป็นสถานที่ทำงานที่เป็นเลิศ ในด้านผลตอบแทน โลตัส มีนโยบาย Total Rewards ที่ให้ความสำคัญกับผลตอบแทนที่เป็นรายได้ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพื่อดูแลชีวิตและความเป็นอยู่โดยรวมของเพื่อนพนักงาน อาทิ โครงการ “คูปองส่วนลดธงเขียว” มอบส่วนลดเพื่อให้เพื่อนพนักงานสามารถซื้อสินค้าคุณภาพและดีต่อสุขภาพของตนเองและครอบครัวได้ในราคาประหยัด
ด้วยความมุ่งมั่นและการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย ได้รับรางวัล “สุดยอดนายจ้างดีเด่น” (Best Employer Thailand) ติดต่อกันเป็นเวลา 4 ปีซ้อน และยังเป็นองค์กรที่ได้รับรางวัล “สถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน” จากกระทรวงแรงงาน ติดต่อกันเป็นเวลากว่า 10 ปี
ชุมชน
โลตัส ได้มีส่วนในการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยได้ให้การสนับสนุนเกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ Direct Sourcing รับซื้อผลิตผลทางการเกษตรโดยตรงจากเกษตรกรทั่วประเทศโดยไม่ผ่านคนกลาง สร้างรายได้ที่มั่นคง และยั่งยืนให้กับเกษตรกรในทุกภูมิภาคของประเทศไทย รวมทั้งช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตให้กับเกษตรกรไทย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอีกด้วย
โลตัส ยังมีโครงการมากมายในการสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และผู้ผลิตสินค้าโอทอป โดยนอกจาก การมอบช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่มีประสิทธิภาพให้ผู้ประกอบการไทยแล้ว โลตัสยังได้มอบความรู้ทั้งในด้านการดำเนินงาน และการยกระดับมาตรฐานสินค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการเติบโตได้อย่างยั่งยืน นอกจากนั้น เรายังมอบพื้นที่จำหน่ายสินค้าภายในศูนย์การค้าของเรา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ช่วยให้ผู้ประกอบการ SME สามารถขยายฐานลูกค้าเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ
โลตัส ดำเนินโครงการเพื่อสังคมอื่น ๆ ผ่าน “มูลนิธิโลตัสส์” ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ได้บริจาคเงินเป็นจำนวนกว่า 650 ล้านบาทให้แก่มูลนิธิและโครงการเพื่อการกุศลต่างๆ นอกจากนี้ มูลนิธิโลตัสส์ยังได้มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่ยากไร้จำนวนกว่า 50,000 คน
โลตัสสนับสนุนกิจกรรมเพื่อชุมชนและสังคมมากมาย อาทิ บริจาคอาหารที่จำหน่ายไม่หมดแต่ยังมีคุณภาพดีให้กับมูลนิธิและผู้ยากไร้ ผ่าน “โครงการกินได้ ไม่ทิ้งกัน” ซึ่งจวบจนปัจจุบันได้บริจาคอาหารไปแล้วเป็นจำนวนกว่า 1,300,000 มื้อ นอกจากนั้นเรายังดำเนินโครงการ “อาหารดีพี่ให้น้อง” ส่งเสริมให้โรงเรียนที่ยากไร้ในทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย เข้าถึงอาหารสดและอาหารแห้งคุณภาพสูงเพื่อประกอบอาหารกลางวันที่มีโภชนาการให้เด็กนักเรียนตลอดทั้งปีการศึกษา
ด้วยเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ และด้วยพนักงานที่มีจิตอาสา โลตัสจึงมีบทบาทสำคัญอยู่เสมอในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ อาทิ ในเหตุการณ์น้ำท่วมประเทศไทยครั้งใหญ่ ปี พ.ศ. 2554 ซึ่งถนนจำนวนมากถูกตัดขาด โลตัสได้พยายามขนส่งสินค้าทั้งทางบกและทางอากาศ เพื่อให้ลูกค้าในชุมชนที่มีน้ำท่วมสามารถมีอาหารและสินค้าสำหรับการอุปโภคบริโภค และ โลตัสยังเป็นที่พักอาศัยของประชาชนในพื้นที่ภัยพิบัติในภูมิภาคต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง